Search

คอลัมน์การเมือง - เราจะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินไปถึงไหน? - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

janganre.blogspot.com

ในสัปดาห์ที่แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวว่าคนไทยที่กลับจากต่างประเทศและอยู่ในระบบการกักตรวจ 14 วันครบแล้วก็กลับบ้าน ต่อมาพบว่าป่วยด้วยไวรัสอีกครั้งหนึ่งเป็นจำนวน 2 คน และต้องกลับเข้ามารับการรักษาอีกครั้งหนึ่ง

จึงเกิดความวิตกกังวลอย่างกว้างขวางว่าการแพร่ระบาดรอบสองตามคำขู่ของคณะหมอ โคขวิดที่ขู่กันตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นกำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้วหรือไม่


แต่ในที่สุดก็มีการแถลงข่าวว่าไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบสอง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ อยู่ในระบบกักตรวจครบกำหนดแล้วกลับบ้าน ต่อมาก็ป่วยขึ้นมาใหม่ และต้องเข้ามารับการรักษาจึงต้องตามหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 2 รายนี้กันจ้าละหวั่นเพราะเกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อขึ้นในประเทศไทย

ในขณะเดียวกันก็มีการเปิดประเด็นขึ้นมาว่า จะต้องต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2563 ซึ่งทำให้การใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยาวนานมากที่สุดสำหรับพื้นที่ทั่วประเทศ จนเกิดความงุนงงสงสัยกันโดยทั่วไปว่าเมื่อประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศเป็นเวลานานแล้ว ความฉุกเฉินทำไมจึงไม่หมดสิ้นไปเสียที

จึงเป็นที่กังขาว่าข่าวการติดเชื้อโคขวิดดังกล่าวนั้นจะเป็นเรื่องเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือโดยบังเอิญ หรือโดยใครจงใจให้เกิดขึ้น เพื่อจะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการขยายการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน และถ้าเมื่อใดก็ตามที่ความเชื่อถือลดน้อยถอยลงแล้ว ความสงสัยนั้นก็จะมากขึ้นโดยลำดับ

และทันทีที่มีการเปิดข่าวว่าจะมีการต่ออายุสถานการณ์ฉุกเฉินคนจำนวนมากต่างก็รำพึงรำพันขึ้นในใจว่า “นั่นไง กูว่าแล้ว” ดังที่ปรากฏตามโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนโดยทั่วไป

นั่นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าเป็นอย่างไร และแนวความเชื่อของประชาชนเป็นไปในลักษณะใดนั่นหมายความว่าความกังขาสงสัยได้ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวางกว่าทุกระยะที่ผ่านมาแล้ว

ประกอบทั้งก่อนหน้านี้ก็มีผู้บริหารคนสำคัญใน ศบค. ได้แถลงข่าวว่าต่อให้มีการค้นพบและใช้วัคซีนโคขวิดแล้ว แต่ก็ต้องตั้งความระมัดระวังและต้องใช้มาตรการป้องกันต่อไป

จึงทำให้คนทั้งหลายเข้าใจได้ว่าความประสงค์ของคณะบุคคลดังกล่าวนี้มีความต้องการที่จะให้ประเทศไทยใช้สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และคนเหล่านี้ก็จะได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการทั้งหลาย โดยมีข้ออ้างว่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทย

ก็เป็นธรรมดาของอำนาจซึ่งเป็นสิ่งหอมหวานเย้ายวนติดยึด แต่ก็มีความร้อนแรงอยู่ในตัว เพราะอำนาจนั้นถ้าไม่ถือไว้และใช้โดยธรรมแล้วก็จะทำลายล้างผู้ถืออำนาจและผู้ใช้อำนาจ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องให้ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

ในขณะที่มีการออกมาตรการมากหลายและใช้จ่ายเงินงบประมาณกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจนั้น ถึงวันนี้ความเสียหายและผลกระทบต่างๆ ได้เกิดขึ้นมากมายสุดคณานับจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของบ้านเมืองอีกปัญหาหนึ่งประดังเข้ามา นั่นคือ

ประการแรก การใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ใช้ไปแล้วทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าใด และใช้ไปในเรื่องใด จำนวนเท่าใด เป็นการใช้ที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลหรือไม่ ดังเช่น การจัดซื้อจัดหาเครื่องฉีดพ่นป้องกันไวรัส ซึ่งเคยมีข่าวว่าใช้เงินไปหลายหมื่นล้านบาท และเป็นการจัดซื้อจัดหาที่แพงลิบลิ่ว รวมทั้งข้าวของต่างๆ ที่จัดซื้อจัดหาก็อยู่ในความกังขาของประชาชนทั้งสิ้นและไม่เคยมีคำตอบหรือชี้แจงใดๆที่สำคัญคือไม่รู้ว่าจะต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณกันอีกเท่าใดจึงจะจบสิ้นกันเสียที

ประการที่สอง ผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว การส่งออกของประเทศลดลงเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศติดลบสูงสุด รายได้ประชาชาติลดลงมากที่สุด และกิจการทั้งหลายไม่ว่าภาคการผลิต ภาคการแปรรูป ภาคการส่งออก และภาคบริการท่องเที่ยวต่างพินาศวายวอดตามๆ กัน

การปิดกิจการและการตกงานเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายและมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลให้มีผู้ตกงาน มีผู้ว่างงานไม่มีรายได้จำนวนมากมายทั่วประเทศ จนกล่าวได้ว่าความเดือดร้อนแผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศ เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า

ประการที่สาม การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นทำให้การบริหารราชการแผ่นดินวิปริตผันแปรไปหมดไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินตามปกติได้ ยิ่งในยามที่เผชิญกับวิกฤติและแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลไม่ได้ก็เท่ากับเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้ทรุดหนักลง

เพราะเมื่อมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว อำนาจทั้งหลายของรัฐมนตรีทุกกระทรวงจะถูกโอนไปเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว จึงทำให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงไม่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินได้ตามปกติ ยกเว้นบางกรณีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายอำนาจที่โอนมาให้ไปปฏิบัติเท่านั้น

ที่สำคัญ เมื่ออำนาจทั้งหลายโอนมาที่นายกรัฐมนตรีแล้วความรับผิดชอบทั้งหมดจึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว และในความเป็นจริงไหนเลยที่คนคนเดียวจะ

Let's block ads! (Why?)



"ต้องการที่จะ" - Google News
August 25, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2D113NS

คอลัมน์การเมือง - เราจะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินไปถึงไหน? - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"ต้องการที่จะ" - Google News
https://ift.tt/307JncB


Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์การเมือง - เราจะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินไปถึงไหน? - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.