ธุรกิจร้านอาหาร ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมากในประเทศไทย เพราะอาหารการกิน เป็นปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็น ดังนั้นไม่ว่า จะเกิดสถานการณ์อะไร หรือ เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่ร้านอาหารก็ยังเดินต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้ ทำให้การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหาร มีการแข่งขันกันสูงมาก
EATLAB สตาร์ทอัปไทย รายที่ 2 ของโลก พัฒนา AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าร้านอาหาร
ทั้งนี้ จากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้วันนี้ เห็นความสามารถของคนไทย ผู้หญิงแกร่งคนนี้ “ผศ.ดร.ชนิกานต์ ว่องวิริยะวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง EAT LAB ผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบบ AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อลดต้นทุน สร้างกำไร และเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบัน EATLAB คือ สตาร์ทอัป รายแรกของอาเซียน ที่สามารถพัฒนาระบบเทคโนโลยี AI ตัวช่วยร้านอาหาร และยังเป็น 1 ใน 2 ราย ในเอเชียและในโลก
ดร.ชนิกานต์ เล่าให้ฟังว่า เดิมเธอทำงานด้าน AI (Artificial intelligence) มาตลอด เริ่มตั้งแต่สมัยเรียน ที่สถาบัน เอ็มไอที และไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียนด้าน AI มาตลอด เริ่มงานครั้งแรก คือ การออกแบบ โรบ็อต หรือ AI เพื่อใช้ในการบริหารจัดการซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบัน เธอยังได้เปิดบริษัทร่วมกับเพื่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ บริการขนส่ง อุปกรณ์เวชภัณฑ์ ยา เลือด เครื่องมือแพทย์ ไปยังพื้นที่ที่เข้าถึงยาก โดยการใช้โดรนในการขนส่ง
สำหรับในส่วนของ EATLAB เป็นธุรกิจสตาร์ทอัปที่เพิ่งเริ่มทำได้ประมาณสัก 10 เดือน จุดเริ่มต้นที่มาทำ EATLAB สืบเนื่องมาจาก ตนเองมีความเชี่ยวชาญทางด้าน AI และนำประสบการณ์ด้าน AI ที่ทำกับธุรกิจไฟแนนซ์ นำมาพัฒนาต่อยอดทำกับธุรกิจของอาหาร โดยความตั้งใจของเราไม่ได้แค่ นำAI ช่วยธุรกิจร้านอาหาร แต่เราต้องการเห็น AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจ เพื่อช่วยให้ธุรกิจนั้น สามารถลดต้นทุน เพิ่มกำไร และเพิ่มยอดขาย โดยเราเริ่มต้นจากธุรกิจร้านอาหาร เพราะในช่วงโควิด-19 ร้านอาหารต้องปรับตัวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขัน ที่เพิ่มมากขึ้น และโครงสร้างของตลาดที่กำลังเปลี่ยนไป
เป้าหมาย EATLAB การเป็นเพื่อนคู่คิดร้านอาหาร
ทั้งนี้ เป้าหมายของ EATLAB ต้องการจะนำ AI เข้าไปเป็นเพื่อนคู่คิด ของร้านอาหาร โดยบทบาทหน้าที่ ของ AI คือ จะเข้าไปวิเคราะห์ความชอบของลูกค้า ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราปรับราคา และจะกระทบกับยอดขายอย่างไรบ้าง ยอดขายจะเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงอย่างไร เราตั้งใจมากว่า จะช่วยผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่สามารถเติบโต ได้ เพราะต่อไปไม่ว่ามีวิกฤตเศรษฐกิจ หรือ ปัจจัยตัวกระตุ้นอะไรก็ตาม ก็จะไม่ทำให้ธุรกิจสะดุด หรือ ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะมีเทคโนโลยี AI ของ EATLAB เข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งเป้าหมายไม่ได้ ช่วยแค่ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย แต่ต้องการช่วยธุรกิจในต่างประเทศด้วย โดยเริ่มต้นที่ประเทศไทย ก่อน แต่ปัจจุบัน มีลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ด้วย เป้าหมายต่อไป ของเราคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะจากสถานการณ์โควิด ประเทศสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นประเทศที่ธุรกิจมีความอ่อนแอ และต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดประเทศหนึ่ง
หันจับตลาดร้านอาหารขนาดเล็ก ในช่วงโควิด
“สำหรับลูกค้าของเราที่ผ่านมา เช่น เอ็มเค แมคโดนัลด์ คอฟฟี่เวิล์ด คอฟฟี่คลับ เอสแอนด์ พี ฯลฯ ตอนแรกเริ่มจากแบรนด์ ใหญ่ก่อน แต่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์ใหญ่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ที่เราเลือกทำให้กับแบรนด์ใหญ่ก่อน เพราะต้นทุนของเราค่อนข้างสูง ทำให้เราไม่สามารถที่จะเป็นแมสได้ แต่ตอนนี้ ต้นทุนเราถูกลงมา ทำให้เราลงมาทำในตลาดแมสได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าว่า ในสิ้นปีนี้ จะมีลูกค้าที่เป็นร้านอาหารรายย่อย ประมาณ 3,000 ร้าน จากโปรโมทชั่นที่จัดให้ในช่วงสถานการณ์โควิด คือ ค่าบริการ เดือนละ 399 บาท ลดลงจากเดือนละ 1,299 บาท เพราะเห็นว่าช่วงสถานการณ์โควิด อาจจะมีหลายร้าน ต้องการความช่วยเหลือ”
ดร.ชนิกานต์ พูดถึง บทบาทการทำงานของ AI ที่ EATLAB นำมาช่วยวิเคราะห์ร้านอาหาร รายย่อย นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น เช่น กรณีที่ร้านอาหารต้องการปรับราคาเพิ่มขึ้น 5 บาท จะกระทบ ยอดขายเขาอย่างไร เกิดคำถามว่า ยอดขายจะตกไหม หรือ เขาจะได้มากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ ระบบ AI ของ EATLAB ช่วยได้ หรือ การช่วยลดต้นทุน เช่น การที่ร้านค้าจะรู้ราคาวัตถุดิบขึ้นเท่าไหร่ ราคาวัตถุดิบต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างไร ทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าจะวางแผนสต็อกวัตถุดิบแบบไหน ทำให้ต้นทุนของเขาถูกที่สุด หรือ การลดต้นทุนด้านแรงงาน เพราะถ้าเราเข้าใจว่า ในแต่ละวันจะมีจำนวนพนักงานในร้านจำนวนกี่คน เพื่อสามารถที่จะรองรับออเดอร์ลูกค้าของเขาได้ หรือเขาจำเป็นจะต้องมีพนักงานพาสไทม์กี่คน ฟูลไทม์กี่คน เพราะฉะนั้นการรู้ล่วงหน้า เดือนหน้า สัปดาห์หน้า หรือ รู้ถึงวันพรุ่งนี้ ทำให้การจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แจ้งเกิด EATLAB จากทีมงานเชี่ยวชาญด้าน AI
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการทำงาน ของ EATLAB มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI โดยตัว “คุณชนิกานต์” เอง เรียนจบด้าน AI Algorithm โดยตรงมาจากสถาบัน MIT และยังได้ไปเรียนต่อด้าน AI ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาต้องการที่จะนำสิ่งที่เรียนมา สานต่อการช่วยเหลือ ธุรกิจในประเทศไทย เพื่อให้การทำธุรกิจดำเนินไปได้ โดยไม่ต้องคาดเดา แต่ทำธุรกิจแบบมีเหตุผลประกอบมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลมาทดสอบ ทำให้ไม่ต้องตัดสินใจแบบลองผิดลองถูกอีกต่อไป
“ด้วยการที่เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นดิจิทัล มากๆ เราสามารถ ใช้ AI ที่ทีมเรามีความเชี่ยวชาญ ซึ่งศักยภาพของ AI ที่เราพัฒนาขึ้นมา ช่วยทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้บิ๊กดาต้า ช่วยให้เราใช้ข้อมูล ดาต้าน้อยกว่า ปกติที่ใช้กันถึง 10 เท่า เราจึงสามารถทำต้นทุนของเราให้ถูกลง 10 เท่า เพราะดีกว่าในเชิงความเร็ว ประสิทธิภาพ และต้นทุน และต้นทุนที่ลดลงถึง 10 เท่า นี้เอง ทำให้เรามีโอกาสที่จะสนับสนุนธุรกิจได้ในราคาที่ถูกลง”
ทำไม ร้านอาหารยุคใหม่ ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี AI
ดร.ชนิกานต์ พูดถึง เหตุผลที่ทุกร้านอาหาร จำเป็นต้องมี AI เพราะด้วยธุรกิจการแข่งขันเริ่มสูงมากขึ้น เรื่อย ด้วยเทคโนโลยีที่เข้าไปช่วย ในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำมาร์เก็ตติ้ง การเข้าถึงช่องทาง ที่ผู้ซื้อเข้ามาหาเรา กำแพงต่างๆ เคยปิดกั้น มันถูกเปิดเพราะเทคโนโลยี ดังนั้น ถ้าธุรกิจที่อยู่ได้อย่างยั่งยืนจำเป็นต้องรู้ว่า ลูกค้าของเราต้องการอะไร สิ่งเหล่านี้ เทคโนโลยี AI ช่วยได้ และยังมีการคาดการณ์ว่า ศักยภาพAI สามารถจะมาเพิ่ม GDP ให้กับทั่วโลกจำนวนมหาศาลในอนาคต
ทั้งนี้ การที่หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนคน เข้ามาลดงาน ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งคล้ายกับมือถือ ตอนที่มือถือเข้ามาแรก ๆ ไม่ได้ทดแทนอย่างเดียว สิ่งที่ได้ คือ มันสร้างด้วย เพราะช่วยสร้างอาชีพ เกิดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เกิดอะไรมากมาย จนกลายเป็น บิสเน็ต อีโคโนมี่ เช่น ถ้าเห็นคนถือสิ่งนี้ทุกวันตอนบ่ายโมง ซึ่งเกิดจากการสังเกต มาจากข้อมูลปริมาณคนที่เข้าไปสังเกต ลูกค้าเยอะจะมีข้อมูลพวกนี้ แต่ไม่สามารถสังเกต ได้ 24 ชม. ไม่สามารถเก็บข้อมูลเป็นพันคน ไม่สามรรถทำได้ แต่ AI สามารถทำได้ พอเราเข้าใจความต้องการตรงนี้ ทำให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้น กลายเป็นบิสเน็ตใหม่ กลายเป็นโอกาสทางการขาย
“ทั้งนี้ ที่เราเลือกพัฒนา AI มาใช้กับ ธุรกิจร้านอาหาร เพราะมองว่า ประเทศไทย มีความหลากหลายทางด้านอาหารและ ความคิดสร้างสรรค์ มีมาก ถ้าเก็บข้อมูลทางอาหารในประเทศไทยได้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ถ้าหลังจากธุรกิจอาหาร เราก็เพิ่มในเซ็กเตอร์อื่น เพราะการนำเทคโนโลยี AI เข้าไปอยู่ในธุรกิจใด ธุรกิจหนึ่ง มันจะสามารถ รู้เรื่องธุรกิจอื่นๆ ได้ เช่น ถ้าเรารู้เรื่องอาหาร เราก็จะรู้เรื่องไฟแนนซ์ และ รู้เรื่องเฮลล์แคร์ไปพร้อมๆกัน เป็นต้น โดยที่เราไม่ต้องไปอยู่ตรงนั้น และนี่คือ เวลาช่วงที่ตื่นเต้นในการที่เรานำ AI มาใช้ในธุรกิจ โดยเป้าหมาย Eat Lab คือ ทำให้ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจในประเทศไทยและหลายประเทศ” ดร.ชนิกานต์ กล่าวในที่สุด
ติดต่อ FB:Eatlab,the Future of Food
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *https://ift.tt/2C4YwkI" data-small-header="false" data-adapt-container-width="true" data-hide-cover="false" data-show-facepile="true" data-show-posts="false">
SMEs manager
"ต้องการที่จะ" - Google News
August 06, 2020 at 09:19AM
https://ift.tt/3fBbZPg
EATLAB ผู้พัฒนาระบบ AI ช่วยวิเคราะห์ ธุรกิจร้านอาหารเติบโตอย่างยั่งยืน (ชมคลิป) - ผู้จัดการออนไลน์
"ต้องการที่จะ" - Google News
https://ift.tt/307JncB
Bagikan Berita Ini
0 Response to "EATLAB ผู้พัฒนาระบบ AI ช่วยวิเคราะห์ ธุรกิจร้านอาหารเติบโตอย่างยั่งยืน (ชมคลิป) - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment